3 จังหวัดขึ้นชื่อ “Smart City” ต้นแบบเมืองอัจฉริยะที่น่าจับตามอง

  • 11 พ.ค. 2563
  • 10198
หางาน,สมัครงาน,งาน,3 จังหวัดขึ้นชื่อ “Smart City” ต้นแบบเมืองอัจฉริยะที่น่าจับตามอง

หลายคนคงคุ้นเคยและรู้จักกับคำว่า Smart City มาบ้างแล้ว ซึ่งในตอนนี้กำลังเป็นที่สนใจของคนทั่วไปเป็นอย่างมาก ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็มักจะได้ยินอยู่เสมอ แต่บางคนอาจยังไม่รู้ว่า Smart City คืออะไร เกี่ยวกับชีวิตประจำวันของเราอย่างไรบ้าง JOBBKK มีคำตอบครับ

 

คำจำกัดความ Smart city

การนำเทคโนโลยีการเชื่อมต่อและสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ผ่านอินเทอร์เน็ต (IoT : Internet of Things) เข้ามาปรับใช้ให้เมืองมีความน่าอยู่มากขึ้น เชื่อมโยงให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มีบริการสาธารณะที่เข้าถึงได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ขณะเดียวกันก็ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานของเมือง ทำให้เศรษฐกิจเติบโต ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของประเทศ และเพิ่มโอกาสในการต่อยอดทางธุรกิจ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน โดยแบ่งออกเป็น 7 ส่วน ประกอบด้วย

Smart Economy  (เทคโนโลยีเศรษฐกิจอัจฉริยะ)

Smart Tourism  (เทคโนโลยีการท่องเที่ยวอัจฉริยะ)

Smart Safety  (เทคโนโลยีการเฝ้าระวังอัจฉริยะ)

Smart  Mobility  (เทคโนโลยีการคมนาคมอัจฉริยะ)

Smart Healthcare  (เทคโนโลยีการดูแลอัจฉริยะ)

Smart Education  (เทคโนโลยีการศึกษาอัจฉริยะ)

Smart Environment  (เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ)

 

แนวคิดของ Smart City

พัฒนาเมืองให้คนในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จากการแก้ปัญหาต่างๆ ช่วยส่งเสริมสิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งได้มีการกำหนดคุณสมบัติสำคัญไว้ 4 ประการ ดังนี้

1) มีการใช้ระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ ถนน อาคารและสิ่งอำนวยความสะดวก ในพื้นที่เมืองอย่างเต็มประสิทธิภาพ มีการบริหารจัดการพลังงานทั้งภาคการผลิต การส่งจ่ายและการใช้พลังงาน รวมทั้งส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนเพื่อสนับสนุนสภาพทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมในเมืองนั้นให้เข้มแข็ง

2) มีความยืดหยุ่นสูง ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ง่ายต่อการเรียนรู้ ง่ายต่อการใช้งาน ง่ายต่อการประยุกต์และปรับเปลี่ยน และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของเมืองได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

3) เทคโนโลยีข้อมูลข่าวสาร เปิดกว้างและสามารถเข้าถึงแก่ผู้ใช้ในทุกระดับ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานภาพ ทั้งยังสามารถแก้ไขให้เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานที่แตกต่างกันได้ด้วย

4) เป็นเมืองแห่งคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข ปลอดภัย เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ บ่มเพาะนักธุรกิจ นักพัฒนา เพื่อสร้างให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมด้านต่างๆ อยู่ตลอดเวลา

 

จังหวัดไหนพัฒนาเป็น Smart city แล้วบ้าง ?

 

ภูเก็ต ไอทีซิตี้ จุดเริ่มต้นของสมาร์ทซิตี้

รัฐบาลเคยวางแผนให้ภูเก็ตเป็นเมืองไอทีซิตี้ เนื่องจากที่นี่สามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติมาลงทุนด้านไอทีได้ และเหมาะที่จะเป็นที่ทำงานและที่พักผ่อนไปในตัว ภูเก็ตเป็นเมืองต้นแบบด้านเทคโนโลยีที่มีความชัดเจนมากที่สุด จึงมีเป้าหมายที่จะสร้างความยั่งยืนให้แก่เมือง โดยสร้างจุดแข็งใหม่ในการให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางธุรกิจดิจิทัล ไม่ใช่เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันมีการขับเคลื่อนใน 4 ด้าน คือ ด้านการท่องเที่ยว ด้านความปลอดภัย ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านเศรษฐกิจ ซึ่งได้มีการนำ IoT (Internet of Things) เข้ามาใช้ในการพัฒนาและส่งเสริมการทำงานอีกด้วย

 

เชียงใหม่ เมืองเกษตรอัจฉริยะ

เชียงใหม่เป็นหนึ่งในจังหวัดต้นแบบของโครงการ โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการทำเกษตร ลดมลพิษทางอากาศ สนับสนุนการท่องเที่ยว พัฒนาจังหวัดและสังคมอย่างยั่งยืน ด้วยการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้งาน ซึ่งจะดำเนินการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนา ที่เน้นให้ประชาชนกินดี อยู่ดี มีสุข สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชน โดยทำเป็น Smart Economy, Smart Tourism และ Smart Agriculture แต่ยังคงไม่ทิ้งวัฒนธรรมและวิถีชีวิตในรูปแบบล้านนา

 

ขอนแก่น ขนส่งสาธารณะเปลี่ยนเมือง (ระยะที่ 1)

จังหวัดขอนแก่นได้มีการพัฒนาด้าน Smart Mobility ได้ในระยะหนึ่งแล้ว โดยมีการพัฒนา Smart Bus ให้ประชาชนได้ใช้บริการ ซึ่งมีการบริการตลอด 24 ชม. พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้โดยสารที่ต้องการใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะในพื้นที่ และยังมีการผลักดันให้ขอนแก่นเป็น ไมซ์ ซิตี้ (MICE CITY) หรือเมืองศูนย์กลางภาคอีสาน พร้อมมีความเป็นผู้นำทางด้าน Smart City  ที่เห็นเป็นรูปเป็นร่างได้ก่อนจังหวัดต้นแบบอื่นๆ ที่รัฐบาลได้เคยวางไว้อีกด้วย

 

นอกเหนือจาก 3 จังหวัดดังกล่าวแล้ว ภาครัฐและเอกชนได้มีการวางแผนที่จะเปลี่ยนจังหวัดอื่นให้เป็น Smart city เช่นกัน แต่มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น พัฒนาเพื่อการศึกษา, พัฒนาด้านการท่องเที่ยว, พัฒนาด้านการประหยัดพลังงาน และพัฒนาด้านความมั่นคง เป็นต้น

สำหรับใครที่กำลังมองหาพื้นที่ในการทำงาน หรือยังเลือกไม่ได้ว่าจะทำงานที่จังหวัดไหน ภูเก็ต  เชียงใหม่ และขอนแก่น ก็เป็น 3 จังหวัดที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะเป็นจังหวัดที่อยู่ในช่วงพัฒนา และกำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต ย่อมส่งผลดีต่อการทำงานที่ก้าวหน้าและมีความมั่นคง อีกด้วย

หางานตามสาขาอาชีพ

JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved

jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด DBD

Top